ถ้าเป็นนักชิมตัวยงแล้วละก็คงเป็นนักสรรหาของอร่อยมาลิ้มลองอย่างไม่ขาดสาย ผมเองก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารซักเท่าไหร่ ทำอาหารก็แค่พอได้ แต่หากมีเวลาจริงๆ แล้วใครว่ามีของอร่อยที่ไหนก็จะพยายามไปลองให้ได้ สำหรับเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวรรค์ของการกินนอกจากประเทศไทยแล้ว ฝรั่งเศสก็เป็นอีกหนึ่งประเทศหนึ่งที่เลื่องชื่อเรื่องร้านอาหารโดยเฉพาะในปารีสที่เหล่านักท่องเที่ยวต้องไปผจญภัยแย่งกันจองร้านอาหารระดับแถวหน้ามิชลินสตาร์ 

มิชลินสตาร์อาจเป็นสวรรค์ของคนกลุ่มใหญ่แต่สำหรับคนหัวใหม่จะสรรหาร้านอาหารบรรยากาศดี ไม่วุ่นวาย อาหารอร่อย ที่สำคัญราคาเข้าถึงได้ จึงทำให้ร้านอาหารจำพวกนีโอ บิสโตร Neo Bistro และไวน์บาร์ กลายเป็นที่นิยมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะไปสรรหาร้านเหล่านี้ได้อย่างไรนะเหรอ? ถ้าจะยากส์ จริงๆแล้วไม่ยากอย่างที่คิดถ้าเป็นคนช่างอ่าน Conde Nast Traveler มักจะมีลิสต์ร้านอาหารอร่อยๆ จำพวกนี้มากมาย ถ้าจะให้บอกว่าร้านไหนอร่อยที่สุดคงจะพูดยาก แต่ถ้าถามว่าร้านไหนจองยากสุดก็คงเป็นร้านเฟรนช์ชี่ ที่เชฟชาวอังกฤษไปได้ดีในอเมริกา และกลับมาเปิดร้านอาหารในกรุงปารีส จองยากส์มาก ใช้เวลา 3-4 เดือนล่วงหน้า โทรจองได้เฉพาะช่วงเวลาบ่าย 3-5 โมงเท่านั้น เคยโทรมากที่สุด 41 ครั้งติดๆกัน รับขึ้นมาหนึ่งครั้งพูด 2 อย่าง Fully Booked และ I can't speak english ก็เลยจบลงด้วยการตรงไปเสี่ยงดวง ซึ่งก็โชคดีที่ได้กินในร้านที่มีประมาณ 15 โต๊ะ แต่ไม่แนะนำให้เสี่ยงนะครับ แต่ถ้าช่วยไม่ได้จริงๆ ร้านตรงข้ามที่เปิดเป็นไวน์บาร์ของเฟรนช์ชี่ก็อาจเป็นแบ็คอัพแพลนได้ อร่อยคุ้มหรือเปล่าอาจเป็นคำถามที่ตอบได้ไม่เต็มปากนัก เพราะแต่ละคนมีความชื่นชอบต่างกัน ถ้ามีโอกาสลองก็ลองเถอะครับราคาดินเนอร์รวมไวน์ที่จับคู่มาในแต่ละคอร์สนั้นอยู่ประมาณ 70 ยูโร

อีกร้านนึงที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างยิ่งและมีโอกาสจะได้กระทบไหล่คนดังคือ ลา โดแฟง เป็นร้านขนาดเล็กบรรยากาศดี และอาหารราคาไม่แพงประมาณ 30-40 ยูโร โดยส่วนตัวแล้วไม่ชอบร้านนี้หลังจากหิวโซ แท็กซี่พาหลงและใช้เวลาหาร้านร่วมชั่วโมง กว่าจะได้เริ่มดินเนอร์ก็ปาไป 4 ทุ่มกว่า เมื่อพูดถึงร้านที่ชอบน้อยสุดก็ต้องคั่นด้วยร้านโปรด Septime ที่ได้รับการแนะนำจากเหล่า Foodies ของปารีเซียง ร้านนี้ควรจองล่วงหน้าหากต้องการไปดินเนอร์ ส่วนอาหารกลางวันค่อนข้างสบายๆ อาหารบอกได้เลยว่าอร่อยมั๊กๆ ราคาอาหารกลางวันอยู่ระหว่าง 35-50 ยูโร ส่วนดินเนอร์นั้น 70-90 ยูโร ขึ้นอยู่กับว่าสั่งกี่คอร์ส แนะนำว่าให้สั่งเซอร์ไพรส์เมนูจากเชฟ รับรองไม่มีผิดหวัง

อีกร้านที่ไม่น่าพลาด เปิดมาหลายปีและยังเป็นที่นิยม อีกทั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวอย่างลูฟว์มิวเซียมอีกด้วย ร้าน Spring สามารถเดินจากลูฟร์มิวเซียมได้โดยมุ่งหน้าไปยังมาเร่ตามทางบนถนนใหญ่ หากพิพิธภัณฑ์อยู่ด้านขวาของคุณ ร้านจะอยู่ในซอยถนนตรงข้ามสุดเขตรั้วพิพิธภัณฑ์ ถ้าหากต้องการไปดินเนอร์แนะนำให้จองไปก่อน โดยส่วนตัวชอบโต๊ะที่อยู่ชั้นใต้ดินมากกว่า อย่าเผลอไปวันอาทิตย์และวันจันทร์นะครับเพราะร้านนี้ปิดทั้ง 2 วัน

ส่วนอีกสองร้านเป็นที่ร่ำลือว่าสุดยอดเรื่องอาหารและเป็นแหล่งแฮงเอาท์ของเหล่าฮิปสเตอร์ในยุคนี้คือร้าน Bones ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรสามารถดูได้จากเว็ปไซท์ www.bonesparis.com และร้าน Manger ที่สามารถหารายละเอียดสำหรับการจองเพิ่มเติมได้ที่ www.manger-leresto.com

Comment